รางสายไฟ, ท่อเคเบิล หรือท่อร้อยสายไฟจัดเป็นท่อป้องกัน หรือเป็นช่องทางที่ใช้ในการเดินสายไฟและป้องกันสายไฟฟ้า และป้องกันสายเคเบิลจากความเสียหาย ในปัจจุบันมีท่อเคเบิลหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีข้อดีและข้อเสียเป็นของตัวเอง วันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณผู้อ่าน ได้ทำความรู้จักกับรางสายไฟในแต่ละรูปแบบให้เข้าใจได้มากขึ้นกัน
รางสายไฟ 5 ประเภทที่ได้รับความนิยม
ในปัจจุบันนี้มีรางสายไฟหรือท่อร้อยสายไฟ 5ประเภทที่ได้รับความนิยม โดยในแต่ละประเภทล้วนมีข้อดี และมีขอบข่ายในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
1. ท่อ PVC (โพลีไวนิลคลอไรด์): ท่อ PVC มักใช้ในที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีราคาย่อมเยา มีน้ำหนักเบา และติดตั้งง่าย มีหลายขนาดและมีทั้งแบบแข็งและแบบยืดหยุ่น ทำให้ใช้งานได้แบบหลากหลายในสถานการณ์มาก ๆ
2. ท่อโลหะ: ทำจากวัสดุ เช่น เหล็กหรืออะลูมิเนียม และมีความทนทานกว่าท่อ PVC เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมและงานกลางแจ้งที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อปัจจัยแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและความชื้น
3. HDPE (High-density Polyethylene) Ducts: ท่อ HDPE มักใช้ในงานใต้ดิน เนื่องจากทนทานต่อความชื้น สารเคมี และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสูง มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และติดตั้งง่าย
4. ท่อไฟเบอร์กลาส: มีความทนทานต่อไฟสูงและสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ โดยทั่วไปจะใช้ในงานอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นหลัก อีกทั้งยังมีข้อดีคือมีน้ำหนักเบา จัดเป็นพลาสติกคืนรูปเมื่อโดนไฟแล้วจะอ่อนตัวลงแต่เมื่ออุณหภูมิกลับมาเป็นปกติก็จะกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง
5. ท่อดักส์คอนกรีต: มีความทนทานสูงและใช้ในงานใต้ดิน ซึ่งท่อดักส์จำเป็นต้องทนต่อแรงกดและน้ำหนักที่มาก นอกจากนี้ยังใช้ในการใช้งานที่ต้องการความต้านทานไฟสูงและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมีมาก เช่นมีความชื้นสูง มีความกดทับสูง ต้องทนทานต่ออุณหภูมิทั้งความร้อนและความเย็น
จุดประสงค์ในการเลือกใช้รางสายไฟ อันดับแรกจะต้องมีการเลือกประเภทของท่อที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งานเฉพาะ มีการกำหนดเส้นทางที่ท่อเคเบิลจะต้องวาง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ ติดตั้งท่อโดยใช้ข้อต่อและตัวยึดที่เหมาะสม และต้องมีการตรวจดูให้แน่ใจว่าท่อต่อสายดินอย่างถูกต้อง และขั้นสุดท้ายการเดินสายเคเบิลหรือสายไฟผ่านท่อ ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม และป้องกันความเสียหายอย่างสมบูรณ์ เพื่อป้องกันไฟรั่วซึ่งอาจจะส่งผลอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานได้อย่างไม่รู้ตัว